อะไรคือเครื่องหมายของการเติบโตฝ่ายวิญญาณเราจะรู้ได้อย่างไรว่าแท้จริงพระเจ้าเป็นอย่างไร? ความเชื่อของเราเกี่ยวกับพระลักษณะของพระเจ้าสำคัญหรือไม่? บทความนี้แสดงให้เห็นถึงความสำคัญในการรู้ว่าพระเจ้าเป็นอย่างไร ภาพของพระเจ้าจะหล่อหลอมความคิดของเราและมีอิทธิพลต่อทั้งชีวิตของเรา ดังนั้น การเติบโตขึ้นในความรู้ว่า พระเจ้าเป็นอย่างไรจึงมีความสำคัญอย่างมาก
สิ่งที่เราเรียนรู้ได้จากประสาทวิทยา
Timothy Jennings จิตแพทย์ชาวคริสต์ พิสูจน์ในหนังสือของเขา The God-Shaped Brain ว่ามุมมองเกี่ยวกับพระเจ้าของเราจะส่งผลให้เกิด “การรักษาทางด้านจิตใจความคิด ร่างกาย และความสัมพันธ์” หรือจะ “นำมาซึ่ง ความเจ็บปวด ความทุกข์ทรมาน และความตายในที่สุด ” เป็นกรณีนี้ เพราะสมองของเราปรับให้เข้ากับภาพลักษณ์ของพระเจ้า สิ่งที่เราเชื่อเกี่ยวกับพระเจ้าจะเขื่อมโยงกับสมอง หรือความคิดของเรา
การเชื่อในพระเจ้าแห่งความรัก “เกี่ยวข้องกับการเติบโตในเยื่อหุ้มสมองส่วนหน้า (ส่วนหนึ่งของสมองที่อยู่ด้านหลังหน้าผากของเราซึ่งเราให้เหตุผล ตัดสิน และสัมผัสกับความรัก) และต่อมาเพิ่มความสามารถในการเอาใจใส่ ความเห็นอกเห็นใจ และการเห็นแก่ประโยชน์ผู้อื่น แต่นี่เป็นสิ่งที่น่าอัศจรรย์ที่สุด ความรักที่ไม่เห็นแก่ตัว ไม่เพียงเพิ่มขึ้นเมื่อเรานมัสการพระเจ้าแห่งความรัก แต่ยังทำให้ความคิดเฉียบแหลมและความจำก็ดีขึ้นเช่นกัน พูดอีกอย่างนึ่งก็คือ การนมัสการพระเจ้าแห่งความรักช่วยกระตุ้นสมองในการรักษาและเติบโตขึ้น อย่างไรก็ตาม เมื่อเรานมัสการพระเจ้าอื่นที่ไม่ใช่ความรัก—หมายความว่าพระเจ้าผู้ที่มักจะลงโทษ เผด็จการ วิพากษ์วิจารณ์ หรือห่างเหิน—วงจรแห่งความกลัวจะเปิดใช้งาน และหากไม่สงบลง จะส่งผลให้เกิดการอักเสบเรื้อรังและความเสียหายต่อทั้งสมองและร่างกาย เมื่อเรากราบไหว้พระเจ้าที่ไม่ใช่พระเจ้าแห่งความรัก ลักษณะของเราจะค่อย ๆ เปลี่ยนไปเป็นเหมือนพระเยซูน้อยลง” (เจนนิงส์, 2013: บทที่ 1)
ประสาทวิทยา ศาสตร์สมัยใหม่ที่ยืนยันว่า ความเชื่อของเราเกี่ยวกับพระลักษณะของพระเจ้ามีอิทธิพลอย่างมากต่อชีวิตของเรา
สิ่งที่เราเรียนรู้ได้จากพระคัมภีร์
ยอห์น 17:3
ประเด็นสำคัญประการหนึ่งในพระกิตติคุณของยอห์นคือ ชีวิตนิรันดร์ ยอห์น 17:3 ให้คำจำกัดความของชีวิตนิรันดร์:
นี่แหละคือชีวิตนิรันดร์ คือที่เขารู้จักพระองค์ ผู้ทรงเป็นพระเจ้าเที่ยงแท้องค์เดียว และรู้จักพระเยซูคริสต์ที่พระองค์ทรงใช้มา
ยอห์น นิยามชีวิตนิรันดร์ว่าเป็นการรู้จัก (กรีก: γινώσκω) พระเจ้า คำกริยาภาษากรีก γινώσκω “หมายถึงการเรียนรู้ที่จะรู้จักบุคคลผ่านประสบการณ์ส่วนตัวโดยตรง หมายถึงความต่อเนื่องของความสัมพันธ์ ในการแปล γινώσκω ในยอห์น 17:3 สิ่งสำคัญคือต้องหลีกเลี่ยงการแสดงออกที่จะหมายถึงเพียง ‘เรียนรู้เกี่ยวกับ’ ที่นี่ต้องเน้นที่ความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลซึ่งมีประสบการณ์ กาลปัจจุบัน บ่งบอกถึงการรู้ที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ” (Trail, 2018:312)
การรู้จักพระเจ้าไม่เกี่ยวกับความรู้ที่เป็นหน้าที่ แต่เป็นการประสบกับพระองค์และการมีสัมพันธภาพกับพระองค์อย่างต่อเนื่อง แก่นแท้ของชีวิตนิรันดร์คือการรู้จักพระเจ้า
ปฐมกาล 1:27
พระเจ้าสร้างเราตามพระฉายาของพระองค์ พระเจ้าต้องการให้เราดำเนินชีวิตที่สะท้อนถึงพระลักษณะของพระองค์ เราจะสะท้อนพระเจ้าได้ดีโดยที่ไม่รู้จักพระลักษณะของพระองค์ได้อย่างไร? ดังนั้น เพื่อบรรลุจุดประสงค์ที่พระเจ้าประทานให้ เราต้องรู้ว่าพระลักษณะของพระเจ้าเป็นอย่างไร
1 ยอห์น 2:12-14
บทนี้ ยอห์นได้แยกแยะผู้เชื่อ 3 กลุ่ม: เด็กเล็ก ชายหนุ่ม และพ่อ เด็กเล็กและชายหนุ่มถูกนิยามด้วยลักษณะที่แตกต่างกันในการทำซ้ำ แต่มีการอธิบายลักษณะพ่อในลักษณะเดียวกัน: ท่านได้รู้จักพระองค์ผู้เป็นมาตั้งแต่ปฐมกาลแล้ว (NTV) นักศาสนศาสตร์ส่วนใหญ่อ้างว่าพระองค์ในข้อนี้หมายถึงพระคริสต์ (Anderson, 2008:59) การรู้จักพระเยซูคือการรู้จักพระเจ้า พระเยซูทรงสำแดงพระลักษณะของพระเจ้าแก่เราอย่างสมบูรณ์ (ฮบ 1:3; คส 1:15) การรู้ว่าแท้จริงแล้วพระเจ้าเป็นอย่างไร (โดยดูที่พระเยซู) เป็นเครื่องหมายของพ่อฝ่ายจิตวิญญาณ
เราจะกลายเป็นเหมือนพระเจ้าที่เรานมัสการ
เราจะกลายเป็นเหมือนพระเจ้าที่เรานมัสการ หากเราเชื่อในพระเจ้าผู้โกรธแค้น และพระเจ้าผู้ซึ่งจะทรมานมนุษย์ส่วนใหญ่ตลอดไป เราก็จะละทิ้งคนที่เราไม่ชอบได้ง่าย คำอธิบายซ้ำบ่อยที่สุดเกี่ยวกับพระลักษณะของพระเจ้าในพันธสัญญาเดิม (คำว่า ḥesed เกิดขึ้น 245 ครั้งในพันธสัญญาเดิม) คือความรักมั่นคง (ภาษาฮิบรู: חֶסֶד ḥesed) ของพระองค์ดำรงเป็นนิตย์ หากเราเชื่ออย่างแท้จริงว่าความรักมั่นคงของพระเจ้าจะไม่สิ้นสุด (และพันธสัญญาใหม่ยืนยันสิ่งนี้ใน 1 คร 13:8) นี้จะเปลี่ยนวิธีที่เราปฏิบัติต่อผู้อื่น หากความรักของพระเจ้าไม่สิ้นสุดสำหรับทุกคน ดังนั้นความรักของเราจะไม่มีวันหมด หรือเหือดหายอย่างง่ายดายแน่นอน
มุมมองของเราเกี่ยวกับพระลักษณะของพระเจ้าจะส่งผลต่อสมองของเรา มีอิทธิพลต่อความเชื่อของเรา และด้วยเหตุนี้ทั้งชีวิตของเรา การที่เราเข้าใจพระลักษณะของพระเจ้าทำให้เกิดความแตกต่างในชีวิตของเรา ดังนั้น เราต้องคิดอย่างจริงจังว่าพระเจ้าเป็นอย่างไร
เราจะรู้ได้อย่างไรว่าพระเจ้าเป็นอย่างไร?
เราจะรู้ได้อย่างไรโดยไม่ต้องสงสัยเลยว่าพระเจ้าเป็นอย่างไร? พระเจ้าเป็นนักรบหัวรุนแรงที่สั่งฆ่าศัตรูโดยปราศจากความเมตตา (ฉธบ. 7:2) หรือไม่? พระเจ้าลงโทษผู้คนด้วยการทำร้าย เพียงเพราะพวกเขาลืมพระองค์จริงหรือ (ยรม. 13:25)? พระเจ้าเห็นชอบให้หญิงพรหมจารี ที่ถูกใช้เป็นรางวัลแห่งสงครามจริงหรือ (กดว. 31:18)? พระเจ้าต้องการเครื่องบูชาด้วยเลือดจริง ๆ เพื่อหยุดความโกรธ เหมือนเทพเจ้าโบราณอื่น ๆ ในเวลานั้นหรือไม่? ทั้งหมดนี้เป็นคำพรรณนาถึงพระเจ้าที่เราพบได้ในพระคัมภีร์เราควรทำอย่างไรกับภาพที่แตกต่างกันของพระลักษณะของพระเจ้าในพระคัมภีร์? เราจะรู้อย่างแน่นอนได้อย่างไรว่าพระเจ้าเป็นอย่างไร?
ในโลกนี้ความรู้ของเรานั้นไม่สมบูรณ์ (1 คร 13:9) อาจเป็นได้ทั้งชีวิตของเรา เราจะเติบโตมากขึ้นในความรู้ว่าพระเจ้ามีพระลักษณะเป็นอย่างไร แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเราต้องเดาว่าพระเจ้าน่าจะเป็นอย่างไร? พระเยซูทรงเป็นการเปิดเผยที่สมบูรณ์แบบของพระเจ้า พระเยซูเพียงผู้เดียวทรงเปิดเผยให้เราทราบอย่างเต็มที่ว่าพระเจ้าเป็นอย่างไร (อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องนี้ ที่นี่) พระเยซูเป็นการเปิดเผยครั้งสุดท้ายของพระเจ้าที่เข้ามาแทนที่การเปิดเผยอื่นๆทั้งหมดของพระเจ้า ดังนั้น เราควรปฏิเสธภาพพระลักษณะทั้งหมดของพระเจ้าที่ไม่สะท้อนชีวิตและคำสอนของพระเยซู พระเจ้าไม่ใช่พระเจ้านักรบผู้โหดเหี้ยมและตอบกลับด้วยความโหดร้าย พระเจ้าที่พระเยซูทรงสำแดงแก่เราคือพระเจ้าผู้ทรงให้อภัย ผู้ทรงพยายามฟื้นฟูสิ่งที่พังทลาย เป็นผู้ซึ่งธรรมชาติแห่งความรักของพระองค์คือผู้ให้ และผู้เสียสละ ผู้ทรงรักด้วยความรักที่ไม่ควบคุม และผู้ทรงปราบความชั่ว ความตาย และความทุกข์ทรมานทั้งปวงในที่สุด พระองค์ทรงเปิดเผยพระเจ้าที่มีธรรมชาติเป็นความรักแบบอากาเป (1 ยอห์น 4:16) แก่นแท้ของพระเจ้าคือความรักแบบอากาเป้ ดังนั้นทุกสิ่งที่พระองค์ทำจึงได้รับแรงบันดาลใจจากความรักแบบอากาเป นั่นหมายความว่า ความเมตตา ความโกรธ การตัดสิน การให้อภัยของพระองค์ ล้วนแต่แสดงออกและได้รับแรงบันดาลใจจากความรักของพระเจ้า การเข้าใจความจริงนี้จะทำให้เราเป็นอิสระจากคำโกหกมากมายที่เราเคยเชื่อเกี่ยวกับพระเจ้า การเชื่อว่าพระเจ้าเป็นความรักจะกระตุ้นให้สมองถูกรักษาและเติบโต และจะช่วยเพิ่มความสามารถในการเอาใจใส่ ความเห็นอกเห็นใจ และการคิดที่เฉียบแหลม พระเจ้าเป็นความรักอย่างแท้จริงและความรักของพระองค์จะไม่มีวันสูญสิ้น
บรรณานุกรม
Anderson, J. (2008). An Exegetical Summary of 1, 2, and 3 John (2nd ed., p. 59). Dallas, TX: SIL International.
Jennings, Timothy R. 2013. The God-Shaped Brain: How Changing Your View of God Transforms Your Life. IVP Books.
Trail, R. L. (2018). An Exegetical Summary of John 10–21 (p. 312). Dallas, TX: SIL International.
บทความที่น่าสนใจอื่นๆ
ใส่ความเห็น