ศูนย์กลางของข่าวประเสริฐของพระเยซูคือความรักอากาเป พระเจ้าเป็นความรักอากาเป (1 ยอห์น 4:8) แก่นแท้ของพระองค์คือความรักอากาเป พระองค์จึงรักทุกๆ คนด้วยความรักอากาเป (ยอห์น 3:16) พระเจ้าเปิดเผยความรักอากาเปของพระองค์ผ่านชีวิตของพระเยซู เราเห็นความรักอากาเปชัดเจนที่สุดเมื่อพระเยซูเสียสละชีวิตของตัวเองเพื่อเรา (โรม 5:8) ความรักอากาเปยิ่งใหญ่กว่าความหวังและความเชื่อ (1 โครินธ์ 13:13) ความรักอากาเปคือสิ่งที่เราควรแสวงหาเหนือสิ่งอื่นใด (โคโลสี 3:12-14) ความรักอากาเปคือบทสรุปของกฎบัญญัติทั้งหมดในพันธสัญญาเดิม (โรม 13:8; กาลาเทีย 5:14) พระเยซูสรุปคำสอนของพระองค์เป็นความรักอากาเป (มัทธิว 22:37-40)
อะไรทำให้ความรักอากาเปพิเศษ
ในสมัยของพระเยซูมีคำภาษากรีกสองสามคำที่หมายถึง ความรัก เช่น phileō (ฟิเลโอ) และepipotheō(เอพิโพเธโอ) ผู้เขียนพันธสัญญาใหม่เลือกใช้คำภาษากรีก “อากาเป” ซึ่งใช้กันไม่บ่อยนักในเวลานั้นเพื่อหลีกเลี่ยงคำภาษากรีกทั่วไปที่หมายถึงความรักซึ่งเกี่ยวข้องกับความคิดของชาวกรีกซึ่งส่วนใหญ่เกี่ยวกับอารมณ์หรือเรื่องเพศ พวกเขาให้ความหมายใหม่กับคำว่า “อากาเป” และด้วยเหตุนี้จึงนิยามความรักอากาเปว่าเป็นความรักที่พวกเขาเห็น ผ่านชีวิตของพระเยซูพวกเขาไม่เพียงเข้าใจว่าความรักเป็นหนึ่ง คุณลักษณะของพระเจ้าท่ามกลางคุณลักษณะมากมายอื่นๆ เช่นศักดิ์สิทธิ์ยุติธรรม แต่ยังเข้าใจว่าความรักอากาเปเป็นแก่นแท้ของพระเจ้า และคุณลักษณะอื่น ๆ ทั้งหมดสะท้อนความรักแบบอากาเป ความบริสุทธิ์ของพระเจ้า ความชอบธรรม ความยุติธรรม ความเมตตาของพระองค์ล้วนเป็นการแสดงออกถึงความรักอากาเปซึ่งเป็น แก่นแท้ของพระองค์ ทุกสิ่งที่พระเจ้าทำ (ไม่ว่าจะปกครอง ตัดสินหรืออย่างอื่นก็ตาม) ล้วนมาจากลักษณะเฉพาะตามแบบความรักอากาเปของพระองค์
แต่ความรักอากาเปคืออะไร
พระเยซูแสดงให้เห็นผ่านชีวิตของพระองค์ว่าความรักอากาเปมีลักษณะอย่างไร ทุกสิ่งที่พระเยซูทำนั้นขับเคลื่อนด้วยความรัก เปาโลนิยามความรักอากาเปในจดหมายฉบับแรกถึงชาวโครินธ์ด้วยคำอธิบาย 15 คำ ในขณะที่อ่านคำอธิบายของเขาเกี่ยวกับความรักอากาเปเราควรคำนึงถึงสองสิ่ง
1) พระเจ้าเป็นความรักอากาเป ดังนั้นเมื่อพูดว่า ความรักอากาเป เปาโลอธิบายพระลักษณะของพระเจ้าในเวลาเดียวกัน พระเจ้าเหมือนความรักอากาเปเสมอ
2) พระเยซูเรียกพวกเราให้รักผู้อื่นด้วยความรักอากาเป ดังนั้นเราควรรักผู้อื่นด้วยความรักอากาเปแบบนี้ตามที่เปาโลอธิบายไว้
หลังจากอ่านข้อคิดเห็นจำนวนมากของผู้ศึกษาพระคัมภีร์สมัยใหม่และบรรพบุรุษของคริสตจักรเกี่ยวกับความรักอากาเป ผมได้เขียนสรุป 1 โครินธ์ 13:4-8 ฉบับถอดความคำอธิบายภาษากรีกทั้ง 15 คำนั้น ทุกคำเต็มไปด้วยความหมายที่ลึกซึ้ง ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการแปลถอดความฉบับนี้จะช่วยเน้นความแตกต่างบางประการที่มักจะสูญหายไปในฉบับแปลทั่วไป
ความรักแท้ (คือความรักอากาเป) ย่อมอดทนอดกลั้นต่อความเจ็บปวดที่ผู้อื่นทําาร้ายโดยไม่ตอบโต้ ความรักแท้เจตนาปฏิบัติต่อผู้อื่นด้วยความเคารพและความเห็นอกเห็นใจ ความรักแท้ไม่อิจฉาในสถานะและความสําาเร็จของผู้อื่น แต่มีความสุขร่วมกับผู้อื่น ความรักแท้ไม่ยกย่องสรรเสริญตัวเอง ความรักแท้ไม่หยิ่งผยองและไม่ให้ความสําาคัญกับตัวเองมากเกินไป ความรักแท้ไม่ปฏิบัติต่อผู้อื่นอย่างไม่เหมาะสม แต่แสดงให้เห็นถึงการให้เกียรติและการคําานึงถึงผู้อื่น ความรักแท้ไม่แสวงหาประโยชน์ของตนเอง แต่เห็นแก่ประโยชน์ของผู้อื่น ความรักแท้ไม่ยืนกรานในแนวทางของตัวเอง ความรักแท้ไม่ตอบสนองด้วยความขมขื่นจากความขุ่นเคือง คําาดูหมิ่น ก้าวร้าว หรือความโกรธเมื่อผู้อื่นทําาให้ขุ่นเคือง ความรักแท้ไม่ช่างจดจําาความผิด ความรักแท้ไม่พึงพอใจในพฤติกรรมที่ไม่ยุติธรรมและเป็นบาปไม่ว่าที่ผู้อื่นหรือตนเองกระทําา ความรักแท้ไม่ยกย่องความอยุติธรรมหรือพฤติกรรมที่ขัดแย้งกับพระประสงค์ของพระเจ้าและแบบอย่างของพระเยซู ความรักแท้เฉลิมฉลองความจริงซึ่งทําาให้สามารถจะซื่อสัตย์และเปิดเผยได้เพราะไม่มีอะไรต้องปิดบัง ความรักแท้อดทนต่อความผิดของผู้อื่นเสมอ ความรักแท้ไม่เคยหยุดที่จะไว้ใจในความสามารถของพระเจ้าที่จะก่อให้เกิดสิ่งที่ดีขึ้นจากความชั่วร้าย ความรักแท้ปฏิเสธที่จะถือว่าความล้มเหลวเป็นจุดจบและมักจะเชื่อมั่นในความสําาเร็จสูงสุดของแผนการพระเจ้า ความรักแท้อดทนต่อความท้าทายทุกรูปแบบและเป็นความรักที่ไม่มีวันตาย ความรักแท้ ไม่มีวันสิ้นสุด และไม่เคยล้มเหลว
ในขณะที่หลายคนอาจมองว่าความรักแบบนี้อ่อนแอและโง่เขลา หรือเป็นอุดมคติที่สูงส่งและไม่สามารถเข้าถึงได้ แต่ความรักแบบนี้เป็นลักษณะของพระเจ้าและควรเป็นลักษณะของลูก ๆ ของพระองค์ (ยอห์น 13:35) พระเจ้าเชิญเราให้เข้าร่วมภารกิจของพระองค์เพื่อไถ่โลกที่แตกสลายนี้ผ่านการเป็นผู้คนที่เต็มไปด้วยความรักอากาเปและมีความรักอากาเปนำทาง
บทความที่น่าสนใจอื่นๆ
ใส่ความเห็น